Fahfon Sense by CPS Agri Co

การผสานรวมโซลูชัน IoT ได้กลายมาเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ ในการแก้ไขปัญหาซับซ้อนที่ภาคเกษตรกรรมต้องเผชิญ CPS Agri Co. ก่อตั้งขึ้นในปี 2020 โดย Chinnawat "POP" Surussavadee บริษัทแห่งนี้มีความเชี่ยวชาญในการจัดหาโซลูชันล้ำสมัยสำหรับแนวทางปฏิบัติทางการเกษตรที่ยั่งยืนและยืดหยุ่นต่อสภาพอากาศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ประวัติความเป็นมา

FAHFON SENSE Sense 1 วัดค่าพารามิเตอร์ทั้งหมด 17 พารามิเตอร์ที่ตัวแปรสำคัญในเกษตรอัจฉริยะ สถานีแบบครบวงจรนี้จะแสดงให้เห็นภาพรวมทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องใช้ WiFi หรือไฟฟ้า ตั้งแต่ฝนและความชื้นไปจนกระทั่งความเร็วลม, แรงดันอากาศ, ความเข้มของแสง, ค่าดัชนี UV, ระดับ PM1, PM2.5, PM4, PM10 และคาร์บอนไดออกไซด์ ความสามารถรอบตัวของอุปกรณ์นี้ครอบคลุมไปกว่า 150 ประเทศ ซึ่งเป็นโอกาสในการขยายธุรกิจระดับภูมิภาคด้วย GPS tracking และพอร์ต I/O 8 พอร์ตสำหรับฟังก์ชันเพิ่มเติม

CPS Agri Co. ใช้ FAHFON Super App ในการแสดงภาพการวัดและเข้าถึงข้อมูลพยากรณ์อากาศความละเอียดสูงในแต่ละพิกัดและแปลงที่ดิน ข้อมูลที่มีความละเอียดในระดับนี้ช่วยให้เกษตรกรและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในภาคการเกษตรสามารถตัดสินใจได้โดยอาศัยข้อมูล เพิ่มผลผลิตพืชผล และช่วยสนับสนุนแนวทางปฏิบัติทางการเกษตรที่ยั่งยืน

ความท้าทาย

บริษัทจำเป็นต้องได้รับข้อมูลสภาพอากาศ มลพิษ และระดับคาร์บอนอย่างแม่นยำในระดับเจาะลึกในท้องถิ่น ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลที่จำเป็นเพื่อปรับกระบวนการเกษตรอัจฉริยะให้มีความเหมาะสมสูงสุด จัดการทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยสนับสนุนเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้นของเมืองอัจฉริยะในภูมิภาค ดังนั้นบริษัทจึงได้ค้นหาตัวเลือกการเชื่อมต่อไร้สาย IoT ที่มีพื้นที่บริการครอบคลุมแม้กระทั่งในสถานที่ที่เข้าถึงได้ยาก

โซลูชัน

CPS Agri Co. สามารถเชื่อมต่อและจัดการกับอุปกรณ์ FAHFON SENSE Sense 1 มากกว่า 1,000 เครื่องทั่วทั้งภูมิภาคด้วยเทคโนโลยี MFF2 ได้อย่างแม่นยำโดยใช้ 1NCE อุปกรณ์เหล่านี้ใช้การเชื่อมต่อ 2G, 3G หรือ 4G ที่มีการเข้าถึงพื้นที่บริการหลายเครือข่าย จึงทำให้มั่นใจได้ว่าการสื่อสารจะมีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้แม้ในพื้นที่ที่อยู่ห่างไกลที่สุด

การสังเกตการณ์และการพยากรณ์สภาพอากาศ ภูมิอากาศ และคุณภาพอากาศอย่างแม่นยำในระดับรายละเอียดที่น่าทึ่งซึ่งขับเคลื่อนด้วย IoT นั้น มีความสำคัญอย่างยิ่งในการเสริมสร้างความสามารถในการรับมือและปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ยิ่งไปกว่านั้น การสังเกตการณ์และการคาดการณ์ดังกล่าวนี้ยังมีบทบาทสำคัญในการบรรเทาผลกระทบ ส่งเสริมแนวทางปฏิบัติในเกษตรอัจฉริยะ มีส่วนสนับสนุนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการทรัพยากรน้ำ ปรับปรุงระบบขนส่ง และรองรับการใช้งานอื่น ๆ อีกมากมายหลายอย่าง