อุตสาหกรรมการเกษตรในญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในด้านเทคโนโลยี ธุรกิจการเกษตรมีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่ได้นำ IoT มาประยุกต์ใช้ในการควบคุมอุปกรณ์ ใช้ทรัพยากร และคาดการณ์ความล้มเหลวที่อาจเกิดขึ้น ในขณะเดียวกัน ต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการบำรุงรักษาและเชื่อมต่อกับเทคโนโลยี IoT ถือเป็นความท้าทายที่สำคัญ

Background

Cowbell Engineering Co., Ltd ก่อตั้งขึ้นในปี 1974 มีสำนักงานใหญ่อยู่ในนางาโนะ เป็นบริษัทที่พัฒนา ผลิต และจำหน่ายการ์ดล็อกในโรงแรม เครื่องชำระเงิน และเกตเวย์ IoT ที่ใช้ Azure หนึ่งในแนวทางหลักของ Cowbell ได้แก่ โซลูชัน IoT สำหรับอุปกรณ์ทางการเกษตร NailEdge ซึ่งเป็นเกตเวย์เซ็นเซอร์ได้ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของฮาร์ดแวร์การเกษตรด้วยการรวบรวมข้อมูลและควบคุมระยะไกลโดยใช้ IoT

Challenge

ลูกค้าของ Cowbell มักแจ้งว่าต้องจ่ายเงินให้กับการดำเนินงานด้าน IoT ในราคาที่สูงเกินไป เช่น การเชื่อมต่อและบริการคลาวด์ นอกจากนี้ ลูกค้ายังคาดหวังให้อุปกรณ์ทำงานในพื้นที่กลางแจ้งและห่างไกลได้ ซึ่งหมายความว่าต้องเป็นตัวเลือกที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ที่มีการทำงานแยกเป็นอิสระ

1NCE Solution

Cowbell ร่วมมือกับ 1NCE เพื่อเอาชนะความท้าทายดังกล่าวข้างต้น และช่วยให้สามารถลดต้นทุนและพัฒนาซอฟต์แวร์ IoT ส่วนขยายสำหรับเกตเวย์เซนเซอร์ NailEdge ของทางบริษัท การสมัครสมาชิก 1NCE IoT Lifetime Flat ช่วยให้ Cowbell กำจัดค่าธรรมเนียมการสื่อสารเป็นรายเดือนที่เกิดขึ้นเป็นประจำ ซึ่งเคยเป็นภาระหนักอึ้งทางการเงินของทั้งผู้ให้บริการและผู้บริโภค รูปแบบการกำหนดราคาแบบอัตราคงที่ช่วยให้คาดเดาต้นทุนได้ ซึ่งหมายความว่าปัญหาเรื่องความไม่แน่นอนและความผันผวนของต้นทุนจะหมดไป

ในทางกลับกัน 1NCE OS นำเสนอฟีเจอร์ที่สำคัญหลายอย่าง IoT Integrator ช่วยให้สามารถสื่อสารกันระหว่างอุปกรณ์กันเองได้โดยไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับระบบคลาวด์ จึงช่วยลดการพึ่งพาบริการคลาวด์ที่มีราคาแพงได้ Device Inspector ช่วยให้สามารถติดตามตรวจสอบและจัดการอุปกรณ์จากระยะไกลได้ จึงทำให้มั่นใจได้ว่าเราจะสามารถควบคุมและดูแลอุปกรณ์ต่าง ๆ จากระยะไกลได้ แม้กระทั่งอุปกรณ์ที่อยู่ในพื้นที่ที่เข้าถึงยากได้ก็ตาม นอกจากนี้แล้ว ฟังก์ชัน Energy Saver ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารข้อมูล ลดการใช้พลังงาน และยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ของอุปกรณ์ที่ทำงานอยู่นอกระบบโครงข่ายไฟฟ้า

Cowbell Engineering สามารถลดต้นทุนการสื่อสารและระบบคลาวด์ได้ถึง 100 เปอร์เซ็นต์ด้วยโซลูชันต่าง ๆ เหล่านี้ ยิ่งไปกว่านั้น เวลาในการพัฒนาอุปกรณ์เกตเวย์ IoT ยังสั้นลงประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์อีกด้วย